เตือนประชาชนระวังโรค “ไข้ฉี่หนู – เมลิออยด์” ที่มากับน้ำท่วม ปีนี้พบป่วยแล้วกว่า 3,300 ราย
ในช่วงฤดูฝนนี้มีฝนตกหนัก ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม รัฐบาลห่วงใยประชาชน อาจเจ็บป่วยด้วยโรคที่ต้องเฝ้าระวังที่มากับน้ำท่วม คือ โรคไข้ฉี่หนู และโรคเมลิออยด์ (Melioidosis) หรือ โรคไข้ดิน ซึ่งในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2565 นี้ พบผู้ป่วยทั้งสองโรครวมแล้วกว่า 3,300 ราย
โรคไข้ฉี่หนู เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล ผิวหนังที่อ่อนนุ่มจากการแช่น้ำนาน หรือการรับประทานอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อจากฉี่หนู หรือสัตว์อื่น ๆ ที่ติดเชื้อ ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว จะปวดมากบริเวณน่องและโคนขา อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียและ ตาแดงด้วย
ส่วน โรคเมลิออยด์ หรือโรคไข้ดิน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Burkholderia pseudomallei ที่พบได้ทั่วไปในดิน น้ำ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายได้จากการสัมผัสน้ำหรือดินที่มีเชื้อปนเปื้อน ดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ และการสูดหายใจเอาฝุ่นจากดินที่มีเชื้อเจือปนอยู่เข้าไป หลังติดเชื้อ 1 - 21 วัน จะมีอาการป่วย แต่บางรายอาจนานเป็นปี ขึ้นอยู่กับปริมาณเชื้อที่ได้รับและภูมิต้านทานของแต่ละคน อาการของโรคนี้ไม่มีลักษณะเฉพาะ จะมีความคล้ายโรคติดเชื้ออื่น ๆ เช่น มีไข้สูง มีฝีที่ผิวหนัง ปวดท้อง ปวดข้อปวดกระดูก มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ บางรายพบอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย ส่วนใหญ่มักจะเริ่มจากอาการไข้ทำให้วินิจฉัยโรคได้ยาก ต้องตรวจเพาะเชื้อทางห้องปฏิบัติการ เพื่อใช้ตรวจวินิจฉัยและรักษา
การป้องกันทั้ง 2 โรคนี้ ให้หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลน หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน หากจำเป็น ควรสวมรองเท้าบูท หรือถุงพลาสติกหุ้มรองเท้าไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำโดยตรง กรณีมีบาดแผลควรปิดด้วย พลาสเตอร์กันน้ำ หมั่นล้างมือ ล้างเท้าด้วยน้ำสบู่บ่อย ๆ และอาบน้ำทันทีหลังจากลุยน้ำ หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีและแจ้งประวัติการเดินลุยน้ำให้แพทย์ทราบ
|